30 March 2010

ปฏิรูปประเทศไทย สู่จุดลงตัวใหม่

ประเวศ วะสี 1.แม่น้ำทุกสายไหลไปรวมตัวกันที่ทะเลฉันใด เส้นทางทุกสายในประเทศไทยจะต้องไหลไปรวมตัวกันที่ความเป็นธรรมฉันนั้น ความเป็นธรรมคือเป้าหมายใหญ่ที่สุด เป้าหมายย่อยจะทำให้ทะเลาะกัน เป้าหมายใหญ่จะทำให้ร่วมกัน เช่น จะสร้างสะพานหรือไม่สร้าง จะเอาทักษิณหรือไม่เอา จะเอาอภิสิทธิ์หรือไม่เอา ย่อมมีคนเห็นต่าง เพราะเป็นเป้าหมายย่อย เป้าหมายใหญ่ของเราร่วมกันคืออะไร เป้าหมายใหญ่ที่สุดของเราทุกคนคือ ให้ลูกหลานของเราอยู่ร่วมกันด้วยความสุขบนผืนแผ่นดินนี้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกันด้วยความสุขคือ ความเป็นธรรม ถ้ามีความเป็นธรรมแล้ว ผู้คนจะรักกันมากและรักส่วนรวม การขาดความเป็นธรรมเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้งและความรุนแรง ตราบใดที่ยังขาดความเป็นธรรม ความขัดแย้งและความรุนแรงจะไม่หายไป สังคมไทยพยายามดิ้นรนไปสู่จุดลงตัวใหม่มากว่า 100 ปีแล้ว จุดลงตัวใหม่ คือ ความเป็นธรรม สังคมไทยขาดความเป็นธรรม ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย และการเมืองการปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งยวดที่จะเกิดขึ้นได้ 2.ความไม่เป็นธรรมแก้ไม่ได้ในสภาวะปกติ ความไม่เป็นธรรมเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกอยู่ในจิตสำนึก ในวัฒนธรรม ในสถาบันและองค์กรต่างๆ แก้ไขไม่ได้ในสภาวะปกติ นอกจากเกิดสงครามกลางเมือง หรือแพ้สงคราม เสียหายมากพอจนเกิดจิตสำนึกใหม่อย่างกว้างขวางว่าต้องแก้ไขกฎกติกาและกลไกเพื่อความเป็นธรรมจึงไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้ ฝ่ายต่างๆ ใช่ว่าจะไม่อยากเห็นประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข คงจะไม่มีใครคิดว่าพระเจ้าอยู่หัวทุกๆ รัชกาล ไม่อยากเห็นบ้านเมืองของพระองค์ร่มเย็นเป็นสุข พระปฐมบรมราชโองการของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" นั้นน่าสนใจยิ่งที่ทรงอ้างถึง โดยธรรม ซึ่งแปลความหมายได้ว่าแผ่นดินต้องมีธรรมครอง ประโยชน์สุขของมหาชนจึงจะพึงบังเกิด คณะราษฎรที่ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ก็หวังจะสร้างประเทศที่มีความเป็นธรรม แม้แต่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็พยายามจำกัดการถือครองที่ดิน หรือจอมพลถนอม กิตติขจร ก็พยายามปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน แต่ไม่สำเร็จ พวกฝ่ายซ้ายตลอดจนคอมมิวนิสต์ก็ต้องการความเป็นธรรมเชิงโครงสร้าง บางส่วนถึงกับเข้าป่าจับอาวุธขึ้นต่อสู้หวังว่าจะยึดอำนาจรัฐ แต่ก็ไม่สำเร็จ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล บอกว่า "ตอนพวกผมต่อสู้ในป่าก็คิดยึดอำนาจรัฐ แต่โชคดีที่ไม่สำเร็จ" หมายความว่า ถ้าใครยึดอำนาจสำเร็จก็เข้าไปแทนที่อำนาจเดิม แล้วก็ต้องเผชิญกับความยากยิ่งยวดของการที่จะปกครองให้เกิดความเป็นธรรมได้สำเร็จ 3.อำนาจไม่ใช่คำตอบ อำนาจคือปัญหาไม่ใช่คำตอบ เคยมีผู้มีอำนาจมาแล้วในอดีตที่สร้างความเป็นธรรมไม่สำเร็จ เช่น พระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คณะราษฎร คณะทหารอย่าง จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ก็ต้องถือว่ามีอำนาจสุดสุด คุณทักษิณเองก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจมาก มีเงินมาก มีผู้สนับสนุนมาก ก็ยังทำไม่สำเร็จแสดงว่าอำนาจไม่ว่าอำนาจรัฐหรืออำนาจเงินไม่สามารถสร้างความเป็นธรรมได้สำเร็จ ฉะนั้น การยึดอำนาจ การโค่นอำนาจ ไม่น่าจะเป็นหนทางที่นำไปสู่จุดลงตัวใหม่ แต่ทำให้เกิดความรุนแรงและถอยหลังได้แต่ถ้าไม่สามารถแก้ความไม่เป็นธรรมได้ บ้านเมืองก็หลุดเข้าไปสู่มิคสัญญีกลียุคได้ 4.สภาวะปริ่มๆ จะเกิดมิคสัญญีกลียุคคือโอกาส สภาวะปกติก็ไม่เกิดการเคลื่อนไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้ การเกิดสงครามกลางเมืองมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากหรือการแพ้สงครามก็ไม่น่าปรารถนา แต่สภาวะปริ่มๆ จะเกิดมิคสัญญีกลียุค เป็นโอกาสที่สังคมจะก้าวหน้าไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้ สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เป็นโอกาสที่สังคมไทยจะเคลื่อนไปสู่จุดลงตัวใหม่ คือ สร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย การเมืองการปกครอง ถ้าคนไทยไม่ฆ่ากันตายเสียก่อน มีนิมิตหมายที่ดี ที่สังคมไทยแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่ต้องการความรุนแรง มีการเรียกร้องและเคลื่อนไหวเรื่องสันติวิธีกันมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแต่ต้องเป็น สันติวิธีที่ก้าวหน้า ไม่ใช่สันติวิธีที่ถอยหลัง หรือสันติวิธีอยู่กับที่คือเจ๊ากันไป แล้วก็จะขัดแย้งรุนแรงขึ้นมาอีก เพราะว่าเหตุใหญ่ยังไม่ถูกขจัดไป นั่นคือความไม่เป็นธรรม สันติวิธีที่ก้าวหน้าคือ สันติวิธีที่นำไปสู่เป้าหมายร่วมกันนั่นคือการสร้างความเป็นธรรมในชาติ 5.ถนนทุกสายในประเทศไทยต้องมุ่งสู่การสร้างความเป็นธรรม สันติวรบทหรือเส้นทางแห่งสันติประชาธรรมต้องมุ่งสู่การสร้างความเป็นธรรม จิตสำนึก และโครงสร้างที่ขาดความเป็นธรรม เป็นเรื่องลึกซึ้งเข้าใจยากจึงแก้ยาก และแก้ไม่ได้ด้วยสโลแกนแบบ "จงทำดีๆ" หรือการใช้อำนาจ เคยเตือนคุณทักษิณเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีปีแรกว่าอย่าใช้อำนาจ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วอำนาจอื่นจะตีกลับทำให้ตก "โครงสร้างมรณะ"แต่ต้องใช้การเปิดพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง เรื่องยากๆ แบบนี้ไม่มีใครหรือสถาบันใดสถาบันหนึ่งจะแก้ไขได้ ไม่ว่าจะมีอำนาจแค่ไหน ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องเข้าใจว่าการที่จะผ่านความติดขัดที่แสนยากไปได้ เราต้องเปิดพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง 6.เปิดพื้นที่ทางสังคม พื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง ความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางกฎหมาย ทางการเมืองการปกครอง แต่ละเครื่องเป็นระบบที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันสาธารณะเข้าใจได้ยาก เมื่อไม่เข้าใจก็จับต้องไม่ได้ ขับเคลื่อนไม่ได้จำเป็นที่นักวิชาการจะต้องช่วยคลี่ความซับซ้อนออกมาให้สังคมจับต้องได้และขับเคลื่อนได้ความไม่เป็นธรรมนั้นติดอยู่ในโครงสร้างของอำนาจและผลประโยชน์ที่ซับซ้อนไม่มีทางที่นักการเมืองคนใด (ต่อให้เก่งหรือดีเท่าใด) ที่จะทำให้หลุดออกไปได้ นอกจากความเคลื่อนไหวของสังคมทั้งหมด การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำของคนไทยในทุกพื้นที่ ในทุกองค์กร และในทุกเรื่อง และการสื่อสารให้รู้ความจริงอย่างทั่วถึงและถึงกัน จะทำให้เกิดพลังงานทางสังคม (Social energy) ที่จะออกจากความติดขัดที่แสนยากนี้ไปได้ การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ (Interactive learning throught action) คือ เครื่องมือที่จะฝ่าความยากออกไปได้ ไม่ใช่อำนาจเรามีมหาวิทยาลัยตั้งกว่า 100 แห่ง แต่มหาวิทยาลัยคุ้นเคยกับการเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาสังคมหรือการอยู่ร่วมกันเป็นตัวตั้ง จึงขาดมุมมอง และสมรรถนะทางนโยบายสาธารณะ บ้านเมืองวิกฤตขนาดนี้แล้ว มหาวิทยาลัยเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว มาเป็นพลังของการเปิดพื้นที่ทางสังคมและทางปัญญาอย่างกว้างขวาง เพื่อความเป็นธรรม รัฐบาลก็ดี สังคมก็ดี สื่อมวลชนก็ดี ต้องกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยเข้ามามีบทบาทในการสร้างความเป็นธรรม เพราะมหาวิทยาลัยเป็นขุมกำลังใหญ่ทางปัญญาและทางสังคม 7.ท้ายที่สุดก็ต้องปฏิรูปประเทศไทย จะรุนแรงหรือไม่รุนแรง จะเกิดมิคสัญญีกลียุคหรือไม่ก็ตาม สังคมไทยจะหาจุดลงตัวใหม่ไม่ได้ ถ้าไม่ปฏิรูปประเทศไทย เพื่อสร้างความเป็นธรรมทุกทาง ทั้งทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางกฎหมาย และทางการเมืองการปกครอง ควรที่คนไทยทุกหมู่เหล่าและทุกภาคส่วนจะเคลื่อนไหวพูดคุยกันว่า ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจคืออะไร และอย่างไร ความเป็นธรรมทางสังคมคืออะไร และอย่างไร ความเป็นธรรมทางกฎหมายคืออะไร และอย่างไร ความเป็นธรรมทางการเมืองการปกครองคืออะไร และอย่างไร ขอให้คุยกันในทุกชุมชน ทุกท้องถิ่น ทุกมหาวิทยาลัย ในองค์กรของรัฐ ในกองทัพ ในภาคธุรกิจ ในสื่อสารมวลชน ในทุกพื้นที่ทางสังคม ควรนำเอาข้อมูลความรู้และเหตุผลเข้าไปสู่การพูดคุยให้มากที่สุด ควรใช้การสื่อสารทุกประเภทเป็นเครื่องมือเปิดพื้นที่ทางสังคม พื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง ทำให้ทุกภาคส่วนของสังคมไทยร่วมปฏิรูปประเทศไทย เรื่องยากๆ ขนาดนี้ ไม่มีรัฐบาลหรือสถาบันใดๆ ทำได้ ต้องสังคมทั้งหมดร่วมกัน เป็นพลังทางสังคม พลังทางปัญญา พลังความถูกต้อง อันมหาศาลเท่านั้นจึงจะทำได้สำเร็จ หากจะมีการตกลงอะไรกัน ก็ควรตกลงที่จะร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยไปสู่จุดลงตัวใหม่ ที่มีความเป็นธรรม ทั้งทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางกฎหมาย และทางการเมืองการปกครอง สร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด