25 May 2011
ศ นพ ประเวศ วะสี เสนอให้มีรายการประชาเสวนาทางโทรทัศน์
ผม(web blogger)สะดุดใจเมื่ออ่านข้อเสนอของอาจารย์หมอ ในหัวข้อ "สถานีโทรทัศน์กับการแก้วิกฤตชาติ" ผ่าน นสพ มติชน 25-5-54 เนื่องจากรายการ ประชาเสวนา เป็นชื่อรายการที่เป็นภาษาไทยของรายการ "Forum Rakyat" ที่เคยออกอากาศและเผยแพร่โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 ส่วนแยกยะลา ระหว่างปี พศ.2541-2543 ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลาเป็นเจ้าของรายการ และผมกับเพื่อน ๆ เป็นผู้ผลิตรายการ อาจารย์หมอระบุว่า สถานีโทรทัศน์อาจพัฒนาความเป็นสถาบันทางปัญญาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
๑.สร้างคลังสมองของสถานี โดยทะนุบำรุงคนกลุ่มหนึ่งหรือเครือข่ายของคนที่มีปัญญา เห็นความเป็นไปในโลกและในประเทศทั้งหมด รู้ประเด็นสำคัญของประเทศ คลังสมองนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการทั้งหมดของสถานีโทรทัศน์
๒.สนับสนุนการวิจัยปัญหาใหญ่ๆ ของสังคมไทย ให้รู้ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทางสังคม เพื่อเอามาสื่อสาร
๓.คัดเลือกและพัฒนานักข่าว ผู้ประกาศข่าว ผู้ดำเนินรายการ ที่มีสติปัญญาสูงเข้าใจความเป็นจริงทางสังคม และประเด็นที่สำคัญๆ ของชาติ ร่วมทั้งสร้างนักเขียนเก่งๆ
๔.สร้างละคร และภาพยนตร์โทรทัศน์ ที่สนุก และสอดแทรกประเด็นหลักของสังคม
๕.จัดรายการประชาเสวนา (Citizen Dialogue) ทางโทรทัศน์ สังคมไทยแตกแยกรุนแรง ขาดเอกภาพทางปัญญา ทอนกำลังกันเอง ไม่สามารถปฏิบัตินโยบายที่สำคัญๆ ของประเทศได้ การใช้แต่ความเห็นไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ หรือยิ่งกลับทะเลาะกันมากขึ้น เพราะร้อยคนก็เห็นร้อยอย่างต่างๆ กันไป
แต่กระบวนการประชาเสวนาใช้ข้อมูลและความรู้เข้าไปในจังหวะที่เหมาะสม ทำให้ผู้ที่มาจากพื้นฐานที่ต่างกันมีฉันทมติตรงกันได้ ประชาเสวนาเป็นกระบวนการประชาธิปไตยอัตถประโยชน์ ก่อให้เกิดความก้าวหน้าด้วยสันติวิธี ถ้าสถานีโทรทัศน์ทุกช่องทำความเข้าใจและจัดรายการประชาเสวนาทางโทรทัศน์เป็น ประจำ จะลดความแตกแยกและความรุนแรง สร้างสรรค์วิธีคิดที่ใช้ข้อมูล ใช้ความรู้ ใช้เหตุผล ที่ก่อให้เกิดปัญญาและวิจารณญาณขึ้นในสังคม
๖.จัดเสวนานักการเมืองทางโทรทัศน์ ทำนองเดียวกับประชาเสวนา หรือผสมกัน จะเป็นการพัฒนาคุณภาพนักการเมืองอย่างต่อเนื่อง
๗.ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งทำเรื่องสำคัญของชาติให้เป็นประเด็นทางการเมือง โดยเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองมาออกรายการโทรทัศน์ แล้วมีการตั้งคำถาม จุดยืนของพรรคว่าถ้าได้รับเลือกมาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำเรื่องที่สำคัญของชาติ ดังนี้หรือไม่ ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งประกาศว่าจะทำจะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ขับเคลื่อน ต่อไปโดยไม่หยุด
7 ปัญหา
โดย ฐากูร บุนปาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 24 พฤษภาคม 2554)
ในฐานะที่แอบไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ประเภท ′ครูพักลักจำ′ มาช้านาน
เวลาที่ครูบาอาจารย์เขียนหนังสือหรือไปบรรยายที่ไหน ก็ต้องขวนขวายไปตามหามาอ่านเพื่อผดุงรอยหยักในสมอง
และหลายครั้งก็ได้อาศัยข้อมูล-แนวคิดเอามาทำมาหากิน
อย่างหนนี้ก็เช่นกัน
′อาจารย์โกร่ง′ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ซึ่งอีกสถานะหนึ่งคือคอลัมนิสต์ประจำของหนังสือพิมพ์ ′ประชาชาติธุรกิจ′ ในเครือมติชน-ข่าวสดด้วยกันนี้ เขียนบทความในคอลัมน์ ′คนเดินตรอก′ ในหนังสือพิมพ์ฉบับ 23-25 พฤษภาคม ในชื่อตอนว่า
ความเสียหายที่ทิ้งไว้กับประเทศชาติ
ประเด็นว่าใครเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหายขออนุญาตไม่เอามาฉายซ้ำ เพราะเชื่อว่าทุกท่านคงทราบอยู่แก่ใจ
เอาประเด็นเนื้อๆ ว่ามีอะไรบ้าง ที่อาจารย์โกร่งสะท้อนไว้ 7 ประเด็นด้วยกันก็คือ
1.ปัญหาความแตกแยกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ และยิ่งแตกแยกขึ้นเพราะมีการปั้นน้ำเป็นตัว ทำให้เกิดสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม
2.การทำลายอุดมการณ์ที่ถูกต้องดีงามของประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และความซื่อตรงในการนำเสนอข้อมูลต่อประชาชน เพราะที่พูดกับที่ทำคนละอย่างกัน หรือเมื่อเป็นฝ่ายค้านพูดอย่าง พอมาเป็นรัฐบาลพูดได้อีกอย่างหน้าตาเฉย
3.ความเสียหายด้านเกียรติภูมิทางการทูตของประเทศ เพราะเอาความต้องการส่วนตัวอยู่เหนือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ จนมีปัญหาไปหมดกับนานาประเทศ ตั้งแต่ระดับมหาอำนาจมาจนเพื่อนบ้าน
4.บาดแผลจากการสลายการชุมนุม ที่ มีผู้เสียชีวิตกว่า 90 คน บาดเจ็บกว่า 2,000 คน นอกจากไม่ได้รับการเยียวยา ยังมีการตอกลิ่มให้ปัญหาหนักข้อยิ่งขึ้น ทั้งกับคนไทยด้วยกันเอง และกับรัฐบาลต่างประเทศที่มาทวงถามความเป็นธรรมให้กับคนของตัวเองที่มาเสีย ชีวิตในเหตุการณ์นี้ด้วย
5.การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สัญญาเอาไว้มากมาย สุดท้ายที่แก้เหมือนไม่ได้แก้อะไรเลย และยิ่งเปิดช่องให้เกิดการซื้อสิทธิขายเสียงขึ้นได้ง่ายๆ เหมือนจะเชื้อเชิญให้เป็นข้ออ้างในการปฏิวัติรัฐประหาร
6.ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประกาศเอาไว้ว่าจะแก้ไขให้ได้ภายใน 6 เดือน ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น
7.สร้าง ′อาณาจักรแห่งความกลัว′ ขึ้นมา ด้วยข้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน นำไปสู่การจำกัดการเสนอข่าวสารของสื่อทุกประเภท ที่ไปกระตุ้นให้ ′ข่าวลือ′ ทั้งที่จริงและไม่จริงยิ่งแพร่สะพัดมากขึ้น
ดร.โกร่งระบุว่า ถ้าจะให้นึกถึงผลงานที่ผ่านมาในช่วง 2 ปี ก็มีอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้น คือเลิกโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรมาเป็นการประกันราคาแทน และโครงการให้กู้ซื้อบ้านดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์
นอกนั้นนึกไม่ออก
อ่านบทความของครูบาอาจารย์จบแล้ว ก็เห็นว่าจะต้องเอามาขยาย
เชื่อว่าอาจารย์คงด่าแบบพึมพำนิดหน่อย แต่ลึกๆ แล้วคงไม่ว่าอะไร
ฮา
22 May 2011
เวทีรัฐศาสตร์มธ.ชี้สังคมไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง

การรักษาโรคมะเร็งปอด


Subscribe to:
Posts (Atom)