ระทึก อียิปต์ระส่ำ ปชช.ทั่วประเทศลุกฮือขับไล่ปธน.เลียนตูนิเซีย ตายแล้ว 3 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ม.ค. อียิปต์ต้องเผชิญสถานการณ์วิกฤตการเมืองหลังจากประชาชนหลายหมื่นคน ต่างแห่ ออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งครองอำนาจเป็นผู้นำประเทศยาวนานกว่า 30 ปี ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยประชาชน 20,000-30,000 คน ได้รวมกันชุมนุมประท้วงบริเวณจัตรุส"ทาห์เรีย"ในกรุงไคโรเมืองหลวง และได้เคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภา ก่อนจะถูกตำรวจยิงเครื่องฉีดน้ำเข้าใส่ โดยตำรวจได้เข้ามาควบคุมพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วงเวลา01.00 น.และได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง ส่งผลให้ผู้ประท้วงกระจัดกระจายไปตามถนนหนทางต่าง ๆ ขณะที่เหตุปะทะได้ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 3 ราย รายงานระบุว่า การประท้วงนี้ยังมีขึ้นตรงกับวันตำรวจแห่งชาติของประเทศ โดยที่กรุงโคไร กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ได้ฉีก ภาพโปสเตอร์ของนายมูบารัค และนายฮาบิบ อัล แอดบี้ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้สันทัดกรณีระบุว่า เหตุประท้วงขับไล่ผู้นำอียิปต์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลียนสถานการณ์วิกฤตการเมืองในตูนิเซีย ที่มีการขับไล่อดีตประธานาธิบดีไซเน เอล อบิไดน์ เบน อาลี ด้วยสาเหตุไม่พอใจหลายอย่าง เช่น การคอรัปชั่น ความยากจน การว่างงาน และขาดเสรีภาพทางสังคม ขณะที่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอียิปต์ได้เรียกร้องเงื่อนไข 4 ข้อต่อรัฐบาล ได้แก่ ขอให้นายมูบารัคลาออก,ให้รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด มาห์มุด โมฮัมเหม็ด นาเซฟ ลาออก,ยุบสมัชชาประชาชน และกำหนดวันเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการสนับสนุนของประชาชน ส่วนพรรคฝ่ายค้านอียิปต์ ยังได้เรยกร้องให้ประธานาธิบดีมูบารัค และนายกาเมล บุตรชาย ไม่ลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้นำประเทศอีก ยุบสมัชชาประชาชน และยกเลิกกฎหมายฉุกเฉิล และปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง รายงานระบุว่า การชุมนุมประท้วงยังเกิดขึ้นทั่วอียิปต์ ในหลายเมือง ได้แก่ เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ซึ่งมีผู้ประท้วง 20,000 คน เมืองแมนซูร่า ซึ่งมีการโบกธงและเรียกร้องให้ประชาชนมีเสรีภาพมากขึ้น รวมทั้งเมืองแมนซูร่าและทันต้า และเมืองอัสวาน และอัสสิอัต ทางตอนใต้ของประเทศด้วย sumber asal: MATICHON ONLINE

Gelombang rakyat Yaman pula bermula

Tuntut pemerintah berundur, ugut tak mahu lanjut penggal Algeria, Tunisia SANAA: Beribu-ribu penduduk Yaman melakukan demonstrasi di ibu negara semalam, menggesa Presiden Ali Abdullah Saleh supaya melepaskan kuasa selepas berkuasa sejak 1978. “Cukuplah berkuasa (lebih) 30 tahun,” laung penunjuk persaan dalam demonstrasi yang diadakan di empat lokasi berbeza di Sanaa. Mereka juga merujuk kepada Presiden Tunisia yang digulingkan, Zine El Abidine Ben Ali kerana menyerah kuasa selepas lebih 20 tahun memerintah. “Kami bantah melanjutkan (penggal presiden). Kami kata tidak jawatan diberi kepada waris,” laung mereka sambil menegaskan sudah masanya ‘masa untuk berubah.” “Teruskan Common Forum. Ia masa untuk berubah,” tulis kain rentang dibawa penunjuk perasaan, merujuk kepada penentang kerajaan. Aktivis Common Forum berkata, demonstrasi yang diadakan di empat lokasi berbeza itu bertujuan untuk menyukarkan pasukan keselamatan. Satu daripada kawasan yang dipilih adalah di luar Universiti Sanaa. Kongres Rakyat Umum pemerintah diterajui Abdullah pula menganjurkan empat demonstrasi dihadiri beribu-ribu penyokong kerajaan. “Tidak kepada penggulingan demokrasi dan perlembagaan,” kata penyokong presiden yang tertulis pada kain rentang mereka. Sabtu lalu, beratus-ratus pelajar Universiti Sanaa mengadakan bantahan balas di kampus dengan ada di antara mereka menggesa Abdullah meletak jawatan. Saleh menjadi presiden sejak beberapa dekad, dipilih semula September 2006 dengan mandat selama tujuh tahun. Satu draf pindaan perlembagaan sedang dibincangkan di parlimen walaupun bantahan pembangkang itu, yang jika diluluskan akan membenarkan beliau terus berkuasa sepanjang hayat. Di KAHERAH, polis menahan sekurang-kurangnya 1,000 orang dalam masa dua hari pertempuran di jalanan, ketika aktivis berikrar untuk meningkatkan bantahan dalam kebangkitan terbesar negara itu selama 30 tahun. Enam terbunuh dalam bantahan menentang pemerintah Presiden Hosni Mubarak yang tercetus daripada protes di Tunisia, mencetuskan gelombang mengejut di rantau berkenaan dan memaksa Washington merangsang sekutunya dalam perubahan demokratik berkenaan. – AFP Sumber berita: BERITA HARIAN ONLINE