08 November 2010
Banjir Kg.Dato,Pattani:Rumah tinggal pelapit
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
"Malam itu saya tengah sembahyang magrib di rumah hujan lebat,didalam rumah saya berada bersama suami,air dan angin sangat kuat dibawah rumah air sampai dekat dada, ngeri sekali,belum pernah melihat lagi dalam hidup saya mujur cucu sempat bawa perahu membawa keluar menumpang ruang masjid diluar sana.Dua hari kemudian kembali semula hampir pingsan tinggal hanya beberapa keping bata bersama papan beberapa keping sekadar boleh duduk bahan kegunaan serta pakaian semua sapu bersih,saya ingin menyimpan rumah sekadar dapat berteduh sahaja" Tangisan Pn.Yoh Mat Ding,60 Thn. penduduk Kg.Dato' Daerah Yaring(Jamu)Wilayah Pattani yg.kehilang tempat tinggal dan harta hampir semuanya akibat bencana taufan maut depresyen pada 1 Nov.10 lalu.
“คืนนั้นฉันกำลังละหมาดมักริบอยู่ที่บ้าน ฝนตกหนัก ในบ้านอยู่กันสองคนกับสามี น้ำและลมมาเร็วมาก บ้านมีใต้ถุนแต่น้ำเกือบถึงอก น่ากลัวมาก เกิดมาไม่เคยเห็น ดีที่หลานเอาเรือมารับทัน ต้องหนีไปอยู่ที่มัสยิดข้างนอก อีกสองวันเข้ามาดูบ้านแทบเป็นลม เหลือหลังคาไม่กี่แผ่นกับไม้กระดานในบ้านพอนั่งได้ ของใช้และเสื้อผ้าเสียหายหมด ฉันอยากให้ช่วยซ่อมแซมบ้านให้พออยู่ได้ก็พอแล้ว”
เป็นเสียงเล่าปนสะอื้นย้อนถึงนาทีชีวิตของ เยาะ มะดิง คุณป้าวัย 60 ปี ชาวบ้านดาโต๊ะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ที่ต้องสูญเสียบ้านและทรัพย์สินจนเกือบสิ้นเนื้อประดาตัวจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นมฤตยูเมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
เยาะในวัย 60 ยังต้องดูแลสามีที่ชรากว่านางถึง 10 ปี และป่วยเป็นโรคปวดข้อเข่าจนทำงานไม่ได้ เมื่อต้องมาเผชิญกับวิกกฤติจากภัยธรรมชาติซ้ำเติมอีกเช่นนี้ ทำให้อาการของเขาทรุดลงไปอีก และยังต้องนอนอยู่บนไม้กระดานในบ้านที่แทบไม่เหลือความเป็นบ้าน เพราะมีแต่โครงไม้กับหลังคาอีกไม่กี่แผ่น ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะไปอาศัยนอนที่โรงเรียนตาดีกาประจำหมู่บ้าน เพราะมีเพื่อนบ้านอาศัยอยู่กันแออัดแล้ว
หนึ่งสัปดาห์แห่งความโศกเศร้าและความสูญเสียจากภัยธรรมชาติที่กระหน่ำเข้าใส่บ้านดาโต๊ะ ถึงวันนี้ยังคงปรากฏร่องรอยให้เห็น แม้จะมีพี่น้องประชาชน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนนับพันเข้าไปช่วยเหลือ ให้กำลังใจ และบริจาคสิ่งของที่ขาดแคลน แต่ซากบ้านเรือนที่พังทลายยังคงตอกย้ำความรู้สึกลึกๆ ในใจของชาวบ้านดาโต๊ะทุกคน และน้ำยังคงท่วมขังอยู่อีกหลายแห่ง
แวนีซะ สุหลง บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ซึ่งเป็นลูกหลานชาวดาโต๊ะอีกคนที่ครอบครัวของเธอต้องรับความเสียหายจากพายุฝนและคลื่นลมที่พัดกระหน่ำ เธอเล่าว่าบ้านของเธอเหลือแต่หลังคาไม่กี่แผ่นเหมือนกัน ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นไม่มีเหลือ ต้องไปอาศัยบ้านญาติเป็นที่หลับนอน ส่วนอาหารก็อาศัยจากโรงเรียนตาดีกาของชุมชน
“ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน มันทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ เห็นสภาพบ้าน สภาพตัวเองและเพื่อนบ้านที่เดือดร้อนทีไรช้ำใจทุกที ดีที่มีหน่วยงานต่างๆ และผู้ใจบุญบริจาคอาหาร น้ำดื่ม และเสื้อผ้ามาให้จำนวนมาก เพราะพวกเราไม่เหลืออะไรติดตัวกันเลย หยิบจับอะไรออกมาไม่ทัน เรื่องอาหารและน้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ควรมีการบริหารจัดการในชุมชนให้ดีกว่านี้ ความช่วยเหลือจะได้ถึงมือผู้เดือดร้อนทุกคนอย่างทั่วถึง” แวนีซะ กล่าว
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment
ความเห็นของคุณ
Pendapat Anda