23 November 2010

ยุคเสื่อมจริยธรรม นักการเมืองความน่าเชื่อถือตกต่ำที่สุด คนจะฟังกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดงมากกว่า

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้จัดงาน “สัปดาห์ส่งเสริมจริยธรรมแห่งชาติ ประจำปี 2553 ” โดยมีการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “ฟื้นจริยธรรม ทางออกของสังคมไทย” เพื่อมุ่งเน้นให้สังคมไทยตื่นตัวกับคำว่าจริยธรรม ที่กำลังเสื่อมโทรมในสังคมไทย เมื่อสังคมประสบวิกฤตรอบด้าน วันนี้ ทุกภาคส่วนเรียกหา ”จริยธรรม” เพื่อหวังหาทางออก !!! ศาสตราจารย์ ดร.ลิขิต ธีรเวคิน นักวิชาการรัฐศาสตร์ และราชบัณฑิต กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้จริยธรรมในสังคมตกต่ำ เกิดจากระเบียบการเมืองระดับโครงสร้างนั้นมีปัญหา นักปรัชญาโบราณ เคยกล่าวไว้ว่าในสังคมที่สงบสุขนั้นต้องมีเสรีภาพ สังคมจะมีความเป็นปึกแผ่น แต่หากสังคมไม่มีเสรีภาพ ก็จะไม่มีความเสมอภาค และสุดท้ายจะไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว ที่ใดที่ไม่มีภราดรภาพอย่าหวังจะมีอะไรที่ทำตามกฎเกณฑ์ คนทำชั่วจะได้ดี แต่คนทำดีไม่ได้ดี จึงเป็นที่มาของ ความแตกแยกในสังคม หาความสามัคคีไม่ได้ ที่มีการพูดกันมากคือนิติรัฐหรือ Rule of Law นั้นไม่ใช่แค่ทุกคนต้องเคารพกฎหมายเท่านั้น แต่กฎหมายนั้นต้องถูกสร้างด้วยความชอบธรรมด้วย เมื่อไหร่ที่กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวสังคมจะอยู่อย่างลำบาก ปัญหาด้านจริยธรรมเกิดขึ้นเพราะระเบียบการเมืองเกิดความสับสน แม้แต่ระบบประชาธิปไตยในวันข้างหน้าของไทย ยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด " วันนี้โครงสร้างการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสังคมเกิดวิกฤตจริยธรรม มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมมหาศาล ในสายตาประชาชนนักการเมืองมีความน่าเชื่อถือตกต่ำที่สุด การประชุมรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นจะไม่มีใครฟัง ไม่มีใครไปทำให้ความเชื่อถือตกต่ำ แต่นักการเมืองทำตัวกันเอง คนจะฟังกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดงมากกว่า ขณะเดียวกันองค์กรทางการเมืองอื่นๆที่เกี่ยวข้องก็เสื่อมลงทั้งหลักการและ จริยธรรม ถ้าแก้ในจุดที่เป็นโครงสร้างการเมืองไม่ได้ก็ไม่อาจสร้างจริยธรรมในสังคม ได้” ดร.ลิขิต กล่าว นายณรงค์ โชควัฒนา นักวิชาการและนักธุรกิจอิสระ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับจริยธรรมสังคมตกต่ำ มาจากนักการเมืองผู้มีอำนาจ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ ออกกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายขาดจริยธรรม เป็นวิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้มีอำนาจต้องเป็นคนที่เข้ามาแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่แก้ไขแล้วยังสร้างปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งคนของตัวเองได้เป็นใหญ่ข้ามหัวคนดี ทำให้ ข้าราชการดีๆหมดกำลังใจ ไม่คิดทำงานเพื่อประเทศชาติ มุ่งแต่รับใช้คนที่มีอำนาจ ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอธิปไตยต้องลุกขึ้นมาเป็นเจ้าของประเทศ อย่าเป็นเจ้าของแค่ไม่กี่วินาทีตอนหย่อนบัตรเลือกตั้ง แม้แต่ประเทศอินเดียซึ่งมีคนจนมากกว่า ชาวอินเดียไปรับเงินแต่ไม่เลือกเพราะเขาสามารถแยกแยะออกได้ระหว่างบุญคุณส่วนตัวกับเรื่องประเทศ แต่คนไทยยังมองว่าเป็นเรื่องบุญคุณเมื่อนักการเมืองให้เงินมาต้องไปกากบาทให้เขาเป็นการตอบแทน แต่ไม่รู้ว่ากำลังยกบ้านเมืองให้นักการเมืองไปโกงกิน รศ.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ประธานศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ระดับจริยธรรมในสังคมตกต่ำลง ซึ่งทำให้มีคนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการถูกหล่อหลอมประเพณีความเชื่อที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยผ่านคำพังเพยต่างๆ เช่น ให้เอาหูไปนา หรือรู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี คำกล่าวเหล่านี้ล้วนสอนให้คนไม่สนใจสังคม ไม่ยุ่งกับคนอื่นเห็นความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นเรื่องไม่สำคัญ การห่างไกลจากสถาบันศาสนาและสถาบันครอบครัว ทำให้เยาวชนห่างไกลจากการถูกปลูกฝังจริยธรรมที่ดี นอกจากนี้สื่อมวลชนเอง มีส่วนทำให้จริยธรรมของคนในสังคมตกต่ำลง เมื่อเด็กในยุคนี้ไม่สนใจความเป็นไปของสังคมก็จะจับกลุ่มพูดคุยแต่กับเพื่อนตัวเองในโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนที่ไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อนของสังคมมากเข้าสังคมนี้ก็กลายเป็นสังคม ที่ป่วย “สังคมกรุงเทพ วันนี้ เหมือนเครื่องบินที่บินไปโดยไม่มีเรดาห์ หรือเรือที่ไม่มีหางเสือ ผู้โดยสารที่อยู่ในสังคมก็เดินทางไปเรื่อยๆไม่รู้ว่าจุดหมายอยู่ตรงไหน คนดีในสังคมไทยกลายเป็นคนแปลกประหลาด ไม่มีพื้นที่จะยืนเพราะไม่รวย ไม่ดัง ไม่มีตำแหน่งสูงเท่าคนไม่ดีที่มีข่าวปรากฏในหนังสือพิมพ์ มันกลับตาลปัตรกันหมด จริยธรรมคุณธรรมเป็นเรื่องถูกเบียดไปอยู่ชายขอบ” รศ.จุรี กล่าว นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร บรรณาธิการอำนวยการ บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าจริยธรรมต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ซึ่งเราทุกคนรู้ต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและรู้ทางออกอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้ที่สังคมไทยยังเกิดปัญหามากมาย เพราะทุกคนไม่นำเอาไปปฎิบัติอย่างถูกวิธี ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ทำให้คุณธรรม จริยธรรมของสังคมเสื่อมโทรมลง การปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมต้องยึดมั่นนำไปปฎิบัติ สังคมไทยเกิดเหตุการณ์ร้ายๆซ้ำซาก ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในการฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ถูกทำลาย ให้รู้จักคำว่าคุณธรรม จริยธรรม คงเป็นทางออกที่ดี แต่หากยังไม่มีการพัฒนา มัวแต่คิดเอาตัวรอดฝ่ายเดียว สังคมไทยก็ยิ่งย่ำแย่ลงเรื่อยๆ การปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ต้องเริ่มกระตุ้นสถาบันครอบครัว ก่อนขยายไปสู่สถาบันอื่นๆ เพราะสถาบันครอบครัวถือเป็นสถาบันแรกที่สามารถปลูกฝังจิตสำนึกและสิ่งดีงามแก่เด็ก เมื่อเราปูทางไว้ดีตั้งแต่แรกเริ่ม ก็จะส่งผลให้สภาพสังคมมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน จากการร่วมฟังสัมมนาในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมเสวนาทั้ง 4 ท่าน มีความเห็นตรงกัน ถึงเรื่องจริยธรรมสังคมตกต่ำลง สาเหตุเกิดจากการปลูกฝังของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก ควรปลูกฝังลูกหลานในทางที่ถูกที่ควรเพื่อให้เด็กจำไปจนโต และการที่นักการเมืองใช้อำนาจต่างๆมาลิดรอนความถูกต้องของประชาชน อาจทำให้ประชาชนเกิดการไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเคารพกฎหมายบ้านเมือง สังคมเสื่อมลง มีแต่คนเลวที่คดโกงบ้านเมือง คนดีกลายเป็นคนชั่ว คนชั่วกลายเป็นคนดีทำให้สังคมไทยไม่หน้าอยู่อีกต่อไป ฉะนั้นคนไทยทุกคนควรหันมาร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์

No comments:

Post a Comment

ความเห็นของคุณ
Pendapat Anda